หากจะพูดถึงสภาวะเศรษฐกิจบ้านเมืองในช่วงนี้ คงจะปฏิเสธได้ยากว่าค่อนข้างจะฝืดเคืองกันเลยทีเดียวเนื่องจากหลายๆ ปัจจัยแต่ที่เป็นประเด็นหลักก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของโควิด-19 ซึ่งเหตุนี้เองที่ทำให้เหล่าบรรดา มนุษย์เงินเดือน ที่หลายๆ คนมองว่ามั่นคงอยู่แล้วก็มิอาจทนแรงสั่นสะเทือนจากคลื่นของโควิดนี้ได้
ซึ่งจากผลสำรวจของ Economic Intelligence Center (EIC) เปรียบเทียบให้เห็นอัตราเรื่องของเงินเดือน, โอที และโบนัส ในปี 2020 (ภาพรวมทั้งปี) +1.3% และรายได้ส่วนใหญ่ยังคงเพิ่มขึ้นอีก 2.7% ส่วนในปี 2021 (ไตรมาส 1/2021) -8.3% ซึ่งจะเห็นว่าแค่ในไตรมาสแรกโควิดก็ส่งผลกระทบอย่างเต็มที่แล้ว ดังนั้น ใครที่ยังคงทำงานอยู่แล้วเริ่มวิตกกังวลถึงความไม่มั่นคงของรายได้ ซึ่งวันนี้ผมก็จะมาแนะนำว่าเราควรจะปรับตัวยังไงดีเมื่อความมั่นคงเริ่มสั่นคลอนขึ้นแล้ว ซึ่งก็คงเป็นอะไรที่ง่ายๆ ที่สามารถทำได้แค่ลงมือปฏิบัติและลองปรับ Mindset กันดูนะครับ

พร้อมเรียนรู้อะไรใหม่ๆ อยู่เสมอ
นี่คงจะเป็น Mindset ที่ดีอย่างหนึ่งที่เราควรจะมีไว้เพราะบางครั้งพนักงานออฟฟิศที่อยู่มานานอาจจะมีปัญหานี้ค่อนข้างเยอะเนื่องจากกลัวการเปลี่ยนแปลงจึงส่งผลให้ไม่กล้าที่อยากจะออก comfort zone ของตัวเอง แต่พอมาถึงยุคที่อะไรๆ ก็ไม่แน่นอนอย่างนี้เราจะมัวมุดหัวอยู่ในกระดองเต่าอีกต่อไปคงไม่ได้แล้ว เพราะถ้าเราไม่ยอมเรียนรู้อะไรใหม่ๆ มีหวังกระดองที่ใช้มุดอยู่อาจจะแตกออกมาซักวัน ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นทักษะอะไรต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาษาเมื่อถึงคราวที่บริษัทต้องไปเปิดตลาดต่างประเทศเราเองก็จำเป็นที่จะต้องเรียนรู้ภาษานั้นๆ เพิ่มเติมหรือองค์กรนำเทคโนโลยี AI มาใช้เราก็ควรที่จะเรียนรู้สิ่งเหล่านี้เพื่อให้อยู่รอดในองค์กรได้ครับ
เตรียมรับมือทุกสถานการณ์ของงานในองค์กร
การรับมือต่อเหตุการณ์ต่างๆ ภายในองค์กรนั้น ถือว่าเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับมนุษย์เงินเดือนอย่างเราเนื่องจากบางครั้งเมื่อมีเหตุต่างๆ ที่ไม่คาดฝันในองค์กรเกิดขึ้นเราเองก็ต้องเตรียมพร้อมอยู่เสมอซึ่งทักษะเหล่านี้ เรียกว่า multitasking ซึ่งก็การทำได้หลายสิ่งหลายอย่างนั่นเอง ดังนั้น การที่เราพร้อมรับมือจากอะไรก็ตามแต่ที่เกิดขึ้นในองค์กรได้นั้นก็แสดงให้เห็นว่าเรามีศักยภาพพอที่จะยืนหยัดต่อสถานการณ์โควิดเช่นกันหรือต่อให้มีอีกหลายวิกฤตผ่านเข้ามาเราก็พร้อมที่จะรับมือและแก้ปัญหาได้อย่างสบายไร้กังวลครับ
ลดค่าใช้จ่ายไว้นิดชีวิตอยู่รอด
ในช่วงที่หลายๆ บริษัทกำลังเจอปัญหาต่างๆ มากมายจนทำให้มีการปรับลดพนักงานลงหรืออาจจะลดเงินเดือนลงได้ จึงทำให้เหล่าบรรดามนุษย์เงินเดือนอย่างเราจะต้องมีการรัดเข็มขัดกันเพิ่มเติมหน่อย เนื่องจากเมื่อรายได้ลดลงแต่รายจ่ายยังคงเท่าเดิมหรือบางคนอาจจะเพิ่มขึ้นไปด้วยซ้ำ ดังนั้น เราอาจจะจำเป็นต้องลดค่าใช้จ่ายบางสิ่ง เช่น อาจจะทำอาหารห่อไปกินเองเพื่อประหยัดรายจ่ายของเราเองหรือหรืออาจจะต้องเปลี่ยนวิธีการเดินทางเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในการไปทำงานอย่างนี้เป็นต้นและก็อย่าลืมที่จะทำบัญชีรายรับรายจ่ายไว้เพื่อให้รู้เท่าทันวงจรเงินของเราว่าได้ไหลออกหรือใช้จ่ายไปกับอะไรบ้าง ดังนั้น การลดรายจ่ายจึงเป็นเรื่องที่จำเป็นสำหรับมนุษย์เงินเดือนในช่วงโควิดอย่างนี้มากครับ
ออมซักนิดชีวิตสบาย
และไม่ว่าสถานการณ์จะอยู่ในช่วงที่เกิดวิกฤตหรือไม่เกิดวิกฤตก็ตาม แต่สิ่งที่มนุษย์เงินเดือนอย่างเราจำเป็นที่จะต้องทำเลย ย้ำนะครับว่าต้องทำ ก็คือการออมเงินไว้ ซึ่งตามเทคนิคหรือหลักการของนักวางแผนการเงินส่วนใหญ่แล้ว แนะนำให้ออมก่อนใช้ อย่างน้อยถ้าในช่วงเริ่มต้นของวัยทำงานต้องออมอยู่ที่ประมาณ 10 – 20% ของรายได้ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว และยังต้องมีเงินสำรองฉุกเฉินไว้ใช้ตอนจำเป็นอย่างน้อย 3 – 6 เดือน เผื่อเราต้องโดน Lay Off จะได้อยู่ต่อไปได้โดยที่ไม่เดือดร้อนใคร ดังนั้น เงินออมจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับมนุษย์เงินเดือนอย่างเรานะครับ
ต้องมีรายได้มากกว่าทางเดียว
ในยุคนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการมีรายได้มากกว่าหนึ่งทางนั้นเป็นเรื่องที่จำเป็น ซึ่งเราก็สามารถทำได้จากความถนัดของเราเอง เช่น การทำขนม เขียนข่าว วาดรูป ทำ youtube หรือแม้แต่เป็นแม่ค้าออนไลน์พอหลังเลิกงานมาก็ live สดขายของได้ และอย่างการทำขนมก็สามารถพรีออเดอร์ทางออนไลน์ก่อนได้ หรือทำแซนด์วิชไปขายที่ทำงานก็ยังช่วยเสริมรายได้ให้เราอีกทางได้ ดังนั้น มนุษย์เงินเดือนอย่างเราเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องปรับตัวเพื่อให้อยู่รอดและทันทุกสถานการณ์ครับ
เป็นยังไงกันบ้างครับครับทริคเสริมความแกร่งให้เราภายในองค์กร ไม่ยากเลยใช่ไหมครับเพราะเป็นสิ่งที่เราทำได้กันอยู่แล้ว แต่ผมก็อยากฝากเอาไว้ว่าการจะให้ยืนหยัดอยู่รอดได้ไม่ใช่แค่เก่งอย่างเดียวแต่คุณต้องยอมรับที่จะเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด ดังคำกล่าวของ Charles Darwin บิดาแห่งวิชาวิวัฒนาการ ได้กล่าวไว้ว่า “ไม่ใช่คนแข็งแกร่งหรือฉลาดที่สุดจะอยู่รอดได้ แต่ผู้ที่จะอยู่รอดได้ คือ คนที่สามารถปรับตัวเองได้ในทุกภาวะเมื่อมีการเปลี่ยนแปลง” และคำกล่าวนี้ถึงขนาดบริษัท Sabina นำมาใช้ปรับใช้เป็นวัฒนธรรมองกรณ์กันเลยทีเดียว จะเห็นได้ว่าการปรับตัวนั้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากในสมัยนี้ เพื่อให้ตัวเองอยู่รอดในสังคมได้ ดังนั้น หวังว่าผู้อ่านจะนำเรื่องราวในวันนี้ไปปรับใช้ในชีวิตการทำงานกันนะครับ